สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ แม้มีการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงของสหรัฐ
ณ เวลา 22.10 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 97 เซนต์ หรือ 2.16% สู่ระดับ 43.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 559,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 1.245 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 567,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 343,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันไม่สามารถรักษาช่วงบวกที่ทำไว้ และดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง โดยถูกกดดันจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกอยู่ในอัตราต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และตลาดจะใช้เวลามากขึ้นในการปรับตัวสู่ระดับสมดุล
IEA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยปรับลดลง 100,000 บาร์เรล/วัน จากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวในไตรมาส 3
นอกจากนี้ IEA ยังคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลงต่อไปสู่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนต่อภาวะเศรษฐกิจมหภาค
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย ซึ่งที่ประชุมจะหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่มั่นใจต่อการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากการเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันต่างจบลงด้วยความล้มเหลว