สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกมีการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ และการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกยังคงปรับตัวสูงขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 43.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 45.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อรายงานของ IEA ซึ่งเปิดเผยตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยปรับลดลง 100,000 บาร์เรล/วัน จากคาดการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ IEA ยังระบุว่า ถึงแม้ผลผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกยังคงลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันโลกลดลง 300,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 96.9 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค. แต่ผลผลิตน้ำมันจากโอเปกยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันในกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข้อมูลดังกล่าวของ IEA ได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 559,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 567,000 บาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 343,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล