สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) หลังจากอิหร่านและซาอุดิอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะไม่ตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดคาดการณ์การบรรลุข้อตกลงในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 44.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 45.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่า การประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัสเซียและกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในครั้งนี้ ที่ประชุมจะไม่มีการทำข้อตกลงในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต หลังจากที่นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า "การประชุมครั้งนี้เป็นเพียงการประชุมหารือเพื่อรับฟังมุมมองต่างๆ ซึ่งเราจะรับฟังจากท่านเลขาธิการโอเปก และผู้บริโภค"
ขณะที่นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันของอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านต้องการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบเป็น 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ 3.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
"ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาของการตัดสินใจ โดยเราจะพยายามบรรลุข้อตกลงในการประชุมเดือนพ.ย." รมว.น้ำมันอิหร่านกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกและรัสเซียมีกำหนดจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันนี้ เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย
ส่วนการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มโอเปกจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย ในวันที่ 30 พ.ย.
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในไตรมาส 4 สู่ระดับ 43 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการผลิตเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในไตรมาส 3 ซึ่งจะทำให้มีน้ำมันส่วนเกิน 400,000 บาร์เรล/วันในไตรมาส 4 เทียบกับระดับ 300,000 บาร์เรล/วันก่อนหน้านี้