สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) หลังจากผู้นำอิหร่านได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ ร่วมมือกับกลุ่มโอเปกในการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 48.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 50.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากนายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้กล่าวกับนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซูเอล่าทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศผู้ผลิตจะต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันและสร้างเสถียรภาพในตลาด
ประธานาธิบดีอิหร่านยังกล่าวด้วยว่า ประเทศสมาชิกโอเปกควรหันหน้าเจรจาอย่างจริงจังกับผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ในประเด็นการปรับขึ้นราคาน้ำมัน และร่วมมือกันสนับสนุนตลาดน้ำมันให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีอิหร่านถือเป็นการเพิ่มมุมมองในด้านบวกให้กับตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า ที่ประชุมโอเปกมีมติปรับลดการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับ 32.5 - 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่พิจารณาส่วนแบ่งด้านการผลิตของสมาชิกโอเปกแต่ละประเทศ และจากนั้นจะยื่นรายงานต่อที่ประชุมโอเปกครั้งต่อไปซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 30 พ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย