สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังร่วงลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันจำนวนมากจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ณ เวลา 22.39 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 11 เซนต์ หรือ 0.22% สู่ระดับ 50.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดิ่งลงกว่า 1% ก่อนหน้านี้
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 474 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล
โอเปกออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนต.ค. โดยระบุว่า โอเปกมีการผลิตน้ำมัน 33.39 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี โดยเพิ่มขึ้น 220,000 บาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.
ทั้งนี้ โอเปกเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนก.ย. แม้ในการประชุมวันที่ 28 ก.ย.ที่แอลจีเรีย โอเปกมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.ส่วนใหญ่มาจากลิเบีย ไนจีเรีย และอิรัก
นอกจากนี้ โอเปกยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกในปีหน้า โดยระบุว่าอยู่ที่ระดับ 240,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 40,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันในรัสเซีย
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์แรก หลังร่วงลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์