สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียและประเทศพันธมิตรในอ่าวเปอร์เซียได้ออกมาแสดงความตั้งใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงถึง 4% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 49.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 50.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากรัฐมนตรีพลังงานจากซาอุดิอาระเบียและประเทศพันธมิตรในอ่าวเปอร์เซียที่เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ด้วยนั้น ได้แจ้งต่อทางรัสเซียว่าจะปรับลดกำลังการผลิตลง 4% จากระดับการผลิตที่สูงมากในปัจจุบัน
ข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนเริ่มกลับมามีความหวังว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถตกลงกันได้ในประเด็นการปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นทั้งในช่วงปลายเดือนนี้และเดือนหน้า
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มจะประชุมร่วมกันในวันที่ 28-29 ต.ค. โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือรายละเอียดในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะมีการเสนอในที่ประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยทำสถิติปรับตัวลง 6 สัปดาห์ในรอบ 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 553,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล