สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 6% เมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในการประชุมปลายเดือนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.49 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 45.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.52 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 46.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นขานรับมุมมองที่เป็นบวกว่า กลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในการประชุมปลายเดือนนี้ หลังจากที่โอเปกได้ตกลงกันในการประชุมที่ประเทศแอลจีเรียเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จะปรับลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 32.50-33.0 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะมีการสรุปโควตาของแต่ละประเทศในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่าอิรัก และอิหร่านกำลังพิจารณาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน รวมทั้งรายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีท่อส่งน้ำมันในไนจีเรีย ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาด
ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนตลาดน้ำมันนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่สัญญาน้ำมันร่วงลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกพุ่งแตะระดับ 33.64 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 240,000 บาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย