สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อทองคำ และยังได้สกัดปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 45.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 46.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
สำหรับปัจจัยล่าสุดที่ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ว่า โดยเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังมีความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายตามภารกิจของเฟดในการรักษาเสถียรภาพด้านราคาและการจ้างงานในระดับสูงสุด
นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังได้สกัดปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกจะสามารถดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน หลังจากที่นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่า โอเปกจะสามารถให้การรับรองอย่างเป็นทางการสำหรับข้อตกลงที่มีการเจรจาในเดือนก.ย. พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าตลาดจะมีความสมดุล และข้อตกลงในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.จะช่วยเร่งให้ตลาดฟื้นตัวเร็วขึ้น
ทางด้านนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย ก็ได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนการตัดสินใจของโอเปกที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ทั้งนี้ รัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มโอเปกจะประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันนี้ที่กรุงโดฮา เพื่อหารือเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันที่มีการบรรลุข้อตกลงในเดือนก.ย. โดยการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ย.