สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ย่อตัวลงในวันนี้ โดยนักลงทุนไม่มั่นใจว่าการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมากพอที่จะลดปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดได้หรือไม่
นอกจากนี้ ความสำเร็จในการประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้า ยังขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือจากอิรัก และอิหร่าน ซึ่งอาจจะไม่ได้ให้การสนับสนุนการลดกำลังการผลิตอย่างเต็มที่
ณ เวลา 20.03 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.08% สู่ระดับ 47.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
ผลการสำรวจของ CNBC Oil Survey ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า โอเปกจะบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.
ผลสำรวจระบุว่า ผู้ถูกสำรวจราว 75% เชื่อว่าโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. ตามข้อเสนอในการประชุมเดือนก.ย.เพื่อลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.6 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ดี แอลจีเรียเสนอให้โอเปกลดการผลิตน้ำมัน 4.0-4.5% หรือมากกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังคงเสียงแตกเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายน้ำมันของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีผลต่อราคาน้ำมัน โดย 29.4% คาดการณ์ว่านโยบายของนายทรัมป์จะช่วยผลักดันราคาขึ้น ขณะที่ 23.5% เชื่อว่าราคาจะร่วงลง และผู้ถูกสำรวจในจำนวนเท่ากันคาดว่านโยบายของนายทรัมป์จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งระบุว่าไม่ทราบว่านโยบายของนายทรัมป์จะมีผลกระทบอย่างไร
ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้กล่าวในระหว่างการหาเสียงว่า เขาจะสนับสนุนการขุดเจาะน้ำมันมากขึ้นในที่ดินของรัฐบาลกลาง รวมทั้งจะผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับการสกัดน้ำมันจากชั้นหินดินดานด้วยการใช้น้ำฉีดลงใต้ดิน (fracking)
ในวันนี้ นักลงทุนจะจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว