สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 8% ทะลุระดับ 49 ดอลลาร์ หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แถลงว่า ที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ณ เวลา 00.09 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 3.94 ดอลลาร์ หรือ 8.71% สู่ระดับ 49.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แถลงว่า โอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมวันนี้ สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมที่กรุงอัลเจียร์สในเดือนก.ย.
การลดกำลังการผลิตดังกล่าว จะเป็นการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.2017
ทั้งนี้ นายโมฮัมเหม็ด บิน ซาเลห์ อัล-ซาดา เลขาธิการโอเปก เป็นผู้ที่ออกมาแถลงข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันนี้
นายอัล-ซาดายังกล่าวว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต โดยรัสเซียเตรียมลดการผลิตลง 300,000 บาร์เรล/วัน จากกำลังการผลิตมากกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วัน
กลุ่มประเทศโอเปกมีกำหนดจัดการประชุมกับประเทศนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 9 ธ.ค.
คูเวต เวเนซุเอลา และแอลจีเรียเห็นพ้องกันที่จะเข้าตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันของสมาชิกแต่ละประเทศ
การประชุมในวันนี้มีขึ้น เพื่อกำหนดโควตาการผลิตน้ำมันของสมาชิกทั้ง 14 ประเทศของโอเปก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ โอเปกได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการประชุมที่กรุงอัลเจียร์สในเดือนก.ย.เพื่อลดกำลังการผลิตโดยรวมสู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน
ในการประชุมเดือนก.ย. ที่ประชุมโอเปกเห็นพ้องกันให้อิหร่าน ลิเบีย และไนจีเรีย ได้รับการยกเว้นจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากการผลิตน้ำมันของประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร และความไม่สงบภายในประเทศ
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 884,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 636,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล