สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) หลังจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นร่วมกับกลุ่มโอเปกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าจะช่วยหนุนราคาน้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 52.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 55.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันพุ่งขึ้นขานรับรายงานที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 13 ประเทศนั้น ได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งแม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายเบื้องต้นที่กำหนดไว้ที่ 600,000 บาร์เรล/วัน แต่ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ประเทศนอกกลุ่มโอเปกได้ปรับลดการผลิตลงมากที่สุด ซึ่งในจำนวนนี้ รัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน โดยจะปรับลดอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า
ความเคลื่อนไหวในด้านบวกของประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกซึ่งมีขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ และยังมีขึ้นหลังจากที่กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย