สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) ขานรับประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ออกมาส่งสัญญาณว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิต ซึ่งรวมถึงคูเวตและรัสเซีย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังช่วยกระตุ้นแรงซื้อในตลาดน้ำมันด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 51.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 55.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับความหวังที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะปรับลดกำลังการผลิตตามที่ตกลงกันไว้ โดยล่าสุด นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย ยืนยันว่า บริษัทน้ำมันทั้งหมดของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงรอสเนฟต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ได้ตกลงทึ่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ภายใต้ข้อตกลงที่รัสเซียทำไว้กับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ทางด้านคูเวต ปิโตรเลียม คอร์ป ได้แจ้งกับลูกค้าในเอเชียว่า บริษัทจะลดการส่งมอบน้ำมันในเดือนม.ค. ให้สอดคล้องตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
ทั้งนี้ ในการประชุมช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยรัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตลง 300,000 บาร์เรล/วัน ในขณะที่กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย. โดยมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.2017
วาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2017 หลังกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ในช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า สู่ระดับ 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนด์ สู่ระดับ 59 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 56.50 ดอลลาร์/บาร์เรล