สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดขึ้นไปยืนเหนือระดับ 52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 54.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักข่าว RIA ของรัสเซียเปิดเผยว่า นายอังเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ได้ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงอังการา ในระหว่างที่เขากำลังกล่าวเปิดงานแสดงศิลปะแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีความขัดแย้งในซีเรีย โดยรัสเซียมีจุดยืนสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย ขณะที่ตุรกีต้องการที่จะให้เขาออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนม.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันอังคารที่ 20 ธ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 12 แท่น สู่ระดับ 510 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ และเป็นการเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน