สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ธ.ค.) หลังมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงาก่อนถึงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับลง 5 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 53.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 56.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 525 แท่น ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 614,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ธ.ค. สู่ระดับ 486.1 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ตลอดปี 2559 สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 45% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานกว่า 52% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่นอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน