สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (5 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียได้เริ่มเจรจากับลูกค้าเพื่อลดการจำหน่ายน้ำมันตามข้อตกลงที่ทำไว้กับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 53.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 56.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐดิ่งลง 7.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 7.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียได้เริ่มเจรจากับลูกค้าเพื่อลดการจำหน่ายน้ำมันตามข้อตกลงที่ทำไว้กับกลุ่มโอเปก โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียได้ตกลงที่จะลดกำลังการผลิตลง 486,000 บาร์เรล/วัน หรือราว 4.61% จากการผลิตจำนวน 10.544 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว