สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตึงตัว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 51.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 54.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร และยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า แม้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมินแนวโน้มการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตของสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แต่สต็อกน้ำมันในเชิงพาณิชย์ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้ลดลงเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนพ.ย. ขณะที่คาดว่าสต็อกน้ำมันในเดือนธ.ค.จะลดลงเช่นกัน
นอกจากนี้ IEA ยังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีที่แล้ว และระบุว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นกำลังส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกเกิดภาวะตึงตัว สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.04 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 342,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 485.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1 ล้านบาร์เรล