สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ขยับขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ จากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน และจากการที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดำเนินการปรับลดกำลังการผลิต
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาด และการขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ได้เป็นปัจจัยกดดันตลาด
ณ เวลา 19.54 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.15% สู่ระดับ 53.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สหรัฐประกาศคว่ำบาตรชาวอิหร่านจำนวน 13 คน และบริษัท 12 แห่ง เพื่อเป็นการลงโทษต่อการที่อิหร่านได้ทำการทดสอบขีปนาวุธ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุรายชื่อบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร 13 คน รวมทั้งบริษัท 12 แห่งที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งบางแห่งตั้งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เลบานอน และจีน
ผลการสำรวจพบว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ให้ความร่วมมือถึง 82% ในการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13 สัปดาห์ ในช่วง 14 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนม.ค.
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 903,000 บาร์เรล