สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ แต่ช่วงบวกถูกจำกัดจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ จะลดผลบวกจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดกำลังการผลิตลง
ตลาดการเงิน และตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันประธานาธิบดี แต่ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ที่ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
ณ เวลา 21.40 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.36% สู่ระดับ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ระดับ 597 แท่น โดยเป็นการเพิ่มขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน
นอกจากนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ขณะที่สหรัฐได้ส่งออกน้ำมันดิบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
การลดกำลังการผลิตของโอเปกได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดให้ผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐ หันมาผลิตน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากจะมีกำไรในการลงทุน หลังจากที่ได้ระงับการผลิตก่อนหน้านี้จากการที่ราคาน้ำมันตกต่ำลง จนประสบภาวะขาดทุนในการผลิต
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่โอเปกอาจจับมือกับประเทศนอกกลุ่มโอเปกเพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไป หากสต็อกน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงไม่ปรับตัวลงสู่ระดับที่ตั้งเป้าหมายไว้
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้