สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ หลังข้อมูลระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันกำลังจับมือกันลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปีที่แล้ว กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้
ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.79% สู่ระดับ 54.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 564,000 บาร์เรล สู่ระดับ 518.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ สหรัฐกำลังเพิ่มการผลิตน้ำมัน ขานรับราคาที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ระดับ 597 แท่น
การลดกำลังการผลิตของโอเปกได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดให้ผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐ หันมาผลิตน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากจะมีกำไรในการลงทุน หลังจากที่ได้ระงับการผลิตก่อนหน้านี้จากการที่ราคาน้ำมันตกต่ำลง จนประสบภาวะขาดทุนในการผลิต