สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อการที่รัฐบาลจีนปรับลดเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความไม่มั่นใจต่อการให้ความร่วมมือของรัสเซียในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 53.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 56.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากรัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้สู่ระดับ 6.5% จากระดับ 6.7% ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจในความร่วมมือของรัสเซียในการปรับลดกำลังการผลิต หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียทรงตัวที่ระดับ 11.11 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ. ส่งผลให้ตลาดมีการไม่แน่ใจต่อการปรับลดกำลังการผลิตของรัสเซีย
คอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า รัสเซียจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตต่อไปอีก 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนนี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ทำไว้ในปีที่แล้ว
ด้านนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า โอเปกและประเทศนอกกลุ่มจะขยายการปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่
นายบาร์คินโดกล่าวว่า การประชุมโอเปกจะมีขึ้นในเดือนพ.ค. และขณะนี้ก็ยังไกลเกินไปที่จะคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะขยายการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่
นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กซบเซาลงด้วย โดยบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 7 แท่น สู่ระดับ 609 แท่น และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน