สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข่าวว่า เบเกอร์ ฮิวจ์รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 79 เซนต์ หรือ 1.60% ปิดที่ 48.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 82 เซนต์ หรือ 1.57% ปิดที่ 51.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
น้ำมัน WTI ปรับตัวลงจากข่าวว่าเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 617 แท่น และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
จำนวนแท่นขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐเดินหน้าเพิ่มการผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กำลังเดินหน้าลดการผลิตตามข้อตกลง
นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า โอเปกและประเทศนอกกลุ่มจะขยายการปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่
นายบาร์คินโดกล่าวว่า การประชุมโอเปกจะมีขึ้นในเดือนพ.ค. และขณะนี้ก็ยังไกลเกินไปที่จะคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะขยายการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปีที่แล้ว กลุ่มประเทศโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้
ทางด้าน Repsol ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสเปน เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ค้นพบแหล่งน้ำมันซึ่งมีปริมาณน้ำมันสำรองถึง 1.2 พันล้านบาร์เรลในบริเวณ North Slope ของรัฐอลาสกาของสหรัฐ
Repsol ระบุว่า การค้นพบแหล่งน้ำมันดังกล่าวถือเป็นการค้นพบแหล่งน้ำมันบนบกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปีในสหรัฐ
Repsol แถลงว่า แหล่งน้ำมันดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถผลิตน้ำมัน 120,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่ปี 2021
ตลอดสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 9.1% และร่วงหลุดระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลตั้งแต่วันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว