สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงเกือบ 2% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งในวันนี้ หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานปรับเพิ่มคาดการณ์อุปทานน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปก ขณะที่โอเปกพยายามลดกำลังการผลิต
ขณะเดียวกัน รายงานโอเปกยังได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น รวมทั้งสต็อกน้ำมันสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น
ณ เวลา 21.43 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.80% สู่ระดับ 47.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
โอเปกออกรายงานในวันนี้ โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปทานน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปกขึ้นอีก 160,000 บาร์เรล/วัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตน้ำมันจากทรายน้ำมันของแคนาดา และการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐ
รายงานยังระบุว่า สมาชิกโอเปกส่วนใหญ่ยังคงผลิตน้ำมันเกินโควตาที่กำหนด แม้ว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดกำลังการผลิตลงอย่างมาก
รายงานเปิดเผยว่า สมาชิกโอเปกที่ให้สัญญาลดกำลังการผลิตได้ผลิตน้ำมัน 29.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ได้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 29.9 ล้านบาร์เรลในเดือนก.พ.
ลิเบีย และไนจีเรียได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังการผลิต เนื่องจากประเทศทั้งสองกำลังฟื้นการผลิตน้ำมัน หลังจากที่การผลิตได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งภายในประเทศ ขณะที่อิหร่านก็ได้รับอนุญาตให้เพิ่มการผลิตเช่นกัน
รายงานระบุว่า อิรัก, สหรัฐอาหรับเอมิเรต, กาบอง, คูเวต, กาตาร์, และเอกวาดอร์ เป็นประเทศที่ได้ผลิตน้ำมันเกินโควตาที่กำหนด
อังโกลา เป็นเพียงประเทศเดียวที่ผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควตา นอกเหนือจากซาอุดิอาระเบีย
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้