สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยสัญญาน้ำมันปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศโอเปก และประเทศนอกกลุ่ม จะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงเดือนธ.ค.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 51.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 54.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศโอเปก และประเทศนอกกลุ่ม จะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงเดือนธ.ค.
นักวิเคราะห์ระบุว่า การลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน จะส่งผลให้สต็อกน้ำมันในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ลดลง ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลในเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ มุมมองในด้านบวกดังกล่าวถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ และยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว และไม่สอดคล้องกับการรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ก่อนหน้านี้
รายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 535.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 435,000 บาร์เรล
ส่วนทางด้าน API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว