สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวการปิดบ่อน้ำมันในลิเบีย และความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐสั่งให้มีการยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศในซีเรีย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 53.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 55.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ลิเบียได้สั่งปิดบ่อน้ำมันชาราราอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่อน้ำมันชารารามีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธได้ปิดกั้นท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมต่อไปยังสถานีขนถ่ายน้ำมัน
ทั้งนี้ บ่อน้ำมันดังกล่าวเพิ่งกลับมาเปิดดำเนินการเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ถูกปิดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ในช่วงต้นเดือนนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังดีดตัวขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้สั่งให้ขีปนาวุธโจมตีซีเรีย เพื่อตอบโต้ปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาดที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 672 แท่น และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย