สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ในวันนี้ หลังการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ การที่ซาอุดิอาระเบียกำลังโน้มน้าวในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนตลาด
ณ เวลา 22.10 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ สู่ระดับ 53.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 533.4 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
กลุ่มโอเปกออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนเม.ย.ระบุว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
ทั้งนี้ โอเปกปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การผลิตน้ำมันทั้งหมดของสหรัฐ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 540,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มการผลิตน้ำมัน shale oil ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 340,000 บาร์เรล/วัน
"การขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และการที่บริษัทต่างๆเพิ่มการใช้จ่ายในการลงทุนด้านน้ำมัน ถือเป็นปัจจัย 2 ประการที่หนุนคาดการณ์การผลิตน้ำมันในช่วงหลายเดือนข้างหน้า" รายงานระบุ
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 672 แท่น และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ โอเปกยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้ สู่ระดับ 1.27 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเพิ่มขึ้น 10,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากจีนและสหรัฐ
ทั้งนี้ คาดว่าจีนและสหรัฐจะมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในปีนี้ ขณะที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกชะลอตัวลง
รายงานของโอเปกคาดว่าปริมาณการบริโภคน้ำมันทั้งหมดในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 96.32 ล้านบาร์เรล/วัน