สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) จากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงหลังจากรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 52.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 55.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตของสหรัฐ หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 เม.ย. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ระดับ 683 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 13 ติดต่อกัน
รายงานระบุว่า สหรัฐมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.24 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่มีการผลิตน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย
ทั้งนี้ การเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐเป็นปัจจัยบั่นทอนความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดการผลิตเพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันล้นตลาดที่ดำเนินมานับตั้งแต่กลางปี 2557
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลงหลังจากนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
นายอัล-ฟาลีห์กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะพิจารณาภาวะตลาดที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า และจะทำการตัดสินใจอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการขยายเวลาในการลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ สมาชิกโอเปกจะจัดการประชุมในวันที่ 25 พ.ค. เพื่อตัดสินใจว่าจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเกินเดือนมิ.ย.หรือไม่