สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 วัน จากความกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ณ เวลา 22.01 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 25 เซนต์ สู่ระดับ 52.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากร่วงแตะระดับ 52.14 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมัน shale oil ในเดือนหน้าจะเพิ่มขึ้น 124,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 5.19 ล้านบาร์เรล/วัน
นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวในวันนี้ว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่กลุ่มโอเปกจัดการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้
นายอัล-ฟาลีห์กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะพิจารณาภาวะตลาดที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า และจะทำการตัดสินใจอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการขยายเวลาในการลดกำลังการผลิต
นอกจากนี้ เขายังระบุว่า สมาชิกโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกได้ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้สัญญาไว้
สมาชิกโอเปกจะจัดการประชุมในวันที่ 25 พ.ค.เพื่อตัดสินใจว่าจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเกินเดือนมิ.ย.หรือไม่