สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ซึ่งได้บดบังการคาดการณ์ที่ว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายรายจะเห็นพ้องกันที่จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้
ณ เวลา 23.02 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.52% สู่ระดับ 48.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ บ่อน้ำมันชาราราของลิเบีย ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันเกือบ 3 แสนบาร์เรล/วัน ได้เริ่มทำการผลิตน้ำมันแล้ว หลังสิ้นสุดการประท้วง ขณะที่บ่อน้ำมันเอล ฟิล ซึ่งมีกำลังการผลิต 9 หมื่นบาร์เรล/วัน ก็ได้เริ่มทำการผลิตเช่นกัน
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 688 แท่น และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 14 ติดต่อกัน ขณะที่มีแนวโน้มที่จะทำให้การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
ขณะนี้ สหรัฐผลิตน้ำมันดิบ 9.25 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นเกือบ 10% นับตั้งแต่กลางปี 2016 และใกล้เคียงระดับการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย
นักวิเคราะห์คาดว่า การผลิต shale oil ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ และปีหน้า หากราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 50-55 ดอลลาร์/บาร์เรล
แหล่งข่าวระบุว่า คณะกรรมาธิการของโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันบางราย เสนอให้มีการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 6 เดือนจนถึงสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ โอเปกจัดการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้