สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากปริมาณสต็อกน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ถึงแม้มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตถึงสิ้นปีนี้
ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.59% สู่ระดับ 48.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันได้เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 760,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2014
ส่วนการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐขณะนี้กำลังแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2015
มีการคาดกันว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันจากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. แต่สต็อกน้ำมันมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าระดับปลายปีที่แล้วราว 10%
นายไบรอัน กิลวารี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทบริติช ปิโตรเลียม (บีพี) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า หากกลุ่มโอเปกขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้ ก็จะส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกลดลงสู่ระดับเฉลี่ยในรอบ 5 ปีภายในสิ้นปีนี้ และจะเป็นแรงหนุนต่อราคาน้ำมันที่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล
"หากโอเปกลดการผลิตน้ำมันจนถึงปลายปีนี้ ก็จะเป็นแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน แต่ถ้าหากโอเปกไม่ดำเนินการดังกล่าว ราคาน้ำมันก็จะประสบความผันผวนต่อไป" นายกิลวารีกล่าว
เขากล่าวเสริมว่า อุปสงค์น้ำมันโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันของชาติอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 3.055 พันล้านบาร์เรล ณ สิ้นเดือนก.พ. โดยสูงกว่าระดับเฉลี่ยในรอบ 5 ปีอยู่ราว 330 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ โอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะประชุมกันในวันที่ 25 พ.ค.เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.