สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดปริมาณน้ำมันที่จะจัดส่งแก่ภูมิภาคเอเชีย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 50.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 438,000 บาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 150,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 538,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล
สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.8% ขณะที่การนำเข้าน้ำมันลดลง 799,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดปริมาณน้ำมันที่จะจัดส่งแก่ภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า บริษัทซาอุดิ อารามโค จะลดการส่งมอบน้ำมันแก่ลูกค้าในเอเชียราว 7 ล้านบาร์เรลในเดือนหน้า ตามข้อตกลงของโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต
สำหรับข่าวความเคลื่อนไหวของโอเปกนั้น แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกกำลังพิจารณาที่จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หรือมากกว่า จากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย. เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า อันเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ
ทางด้านนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า โอเปกอาจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าปีนี้
ทั้งนี้ โอเปกจัดการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกและประเทศนอกกลุ่ม มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้
โอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะประชุมกันในวันที่ 25 พ.ค.เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.