สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเห็นพ้องที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 48.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 51.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อวันจันทรท์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบีย และนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า รัสเซียและซาอุดิอาระเบียได้เห็นพ้องที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ รมว.พลังงานรัสเซีย กล่าวว่า จุดประสงค์สำคัญในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก็เพื่อทำให้สต็อกน้ำมันในเชิงพาณิชย์ทั่วโลกลดลงสู่ระดับเฉลี่ยในรอบ 5 ปี และเพื่อทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ
ทางด้านนายเอสซาม อัล-มาร์ซูค รมว.น้ำมันคูเวต กล่าวว่า เขาให้การสนับสนุนแนวคิดของซาอุดิอาระเบียและรัสเซียในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปถึงไตรมาสแรกของปีหน้า
นอกจากนี้ คาดว่าสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะให้การสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าวเช่นกันในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานประจำเดือนพ.ค.ว่า ตลาดน้ำมันกำลังทำการปรับสมดุล และกระบวนการดังกล่าวจะรวดเร็วขึ้นในระยะสั้น
นายนีล แอตคินสัน หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมน้ำมันและตลาดของ IEA กล่าวว่า "เราคิดว่าตลาดกำลังทำการปรับสมดุล และกระบวนการดังกล่าวจะดำเนินต่อไป สำหรับในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เราอาจจะยังไม่เห็นตลาดกลับเข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำมัน แต่ในรายงานนี้ได้ยืนยันสิ่งที่เรากล่าวไว้ก็คือตลาดกำลังปรับสมดุล และกระบวนการดังกล่าวกำลังเร่งตัวขึ้นในระยะสั้น"
ทั้งนี้ IEA ระบุในรายงานดังกล่าวที่มีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ ก่อนที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะจัดการประชุมในวันที่ 25 พ.ค.