สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 52.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 413,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 731,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
รายงานสต็อกน้ำมันดิบของ EIA สวนทางกับรายงานของการปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 882,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายเอสซาม อัล-มาร์ซูค รมว.น้ำมันคูเวต กล่าวว่า เขาให้การสนับสนุนแนวคิดของซาอุดิอาระเบียและรัสเซียในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปถึงไตรมาสแรกของปีหน้า พร้อมกับคาดการณ์ว่า สมาชิกกลุ่มโอเปกจะให้การสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าวเช่นกันในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.