สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้
ณ เวลา 21.52 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.33% สู่ระดับ 51.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 787,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 485,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 743,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมจะมีมติขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน จนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า ข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกครึ่งหนึ่ง มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบน้อยมากต่อความพยายามของโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ ในงบประมาณประจำปี 2018 รัฐบาลสหรัฐจะทำการขายน้ำมัน SPR ในปีงบประมาณ 2018 ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค. โดยคาดว่าจะทำให้รัฐบาลมีรายได้ 500 ล้านดอลลาร์ในปีแรก และค่อยๆเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป
แผนของปธน.ทรัมป์จะทำให้มีการขายน้ำมัน SPR ออกครึ่งหนึ่งในช่วงปี 2018-2027 เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนต.ค.2018
นอกจากนี้ แผนงบประมาณดังกล่าว ยังได้เสนอให้มีการขุดเจาะ และผลิตน้ำมันมากขึ้นในอลาสกา
SPR นับเป็นคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณน้ำมันอยู่ราว 688 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพียงพอสำหรับความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเป็นเวลา 1 สัปดาห์
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การขายน้ำมันดังกล่าวจะมีค่าเฉลี่ยเพียง 25,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ และ 66,000 บาร์เรล/วันระหว่างปี 2018-2020 และ 110,000 บาร์เรล/วันจนถึงปี 2027 ซึ่งถือว่ามีระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกจำนวน 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน