สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 รวมทั้งความหวังที่ว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับ จะคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังจากที่คูเวตได้แสดงความตั้งใจที่จะเป็นคนกลางในการประสานความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 48.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 50.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะปิดเผยในวันนี้ จะปรับตัวลดลง 3.25 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นการปรับลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า ความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับจะคลี่คลายลง หลังจากชีคห์ ซาบาห์ อัล-อาห์หมัด อัล-จาเบอร์ อัล-ซาบาห์ เจ้าผู้ครองรัฐแห่งคูเวต เดินทางไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อประสานรอยร้าวจากการที่ชาติอาหรับได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์
ทั้งนี้ ชีคห์ อัล-ซาบาห์ เข้าพบปะกับสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดิอาระเบีย เพื่อหาทางคลี่คลายความขัดแย้งในกลุ่มประเทศอาหรับ ขณะที่ทางกาตาร์ประกาศว่าจะไม่ตอบโต้ชาติอาหรับ และหวังว่าคูเวตจะสามารถแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บาห์เรน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เยเมน ลิเบีย และมัลดีฟส์ ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูดกับกาตาร์ โดยอ้างเหตุผลว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และอิหร่าน รวมทั้งบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค
ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุว่า ทั้ง 3 ชาติจะปิดชายแดนทางบก และทะเล รวมทั้งสนามบินต่อกาตาร์ โดยห้ามกาตาร์รุกล้ำดินแดน น่านน้ำ และน่านฟ้าของทั้ง 3 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจาก EIA ประกาศปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีนี้ลงอีก 20,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.54 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ EIA ยังปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีหน้าลงอีก 10,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.62 ล้านบาร์เรล/วัน