สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากลซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 44.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 47.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 457,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 328,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 686,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยรายงานประจำเดือนมิ.ย. ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้น 290,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 32.08 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ อันเนื่องจากการกลับมาผลิตน้ำมันของไนจีเรีย และลิเบีย ซึ่งได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตของโอเปก
IEA เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกได้เพิ่มขึ้น 585,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 96.69 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้อุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.25 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2016
นอกจากนี้ IEA ระบุว่า ความพยายามของโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต ด้วยความหวังที่ว่าจะช่วยให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นนั้น มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐ และประเทศที่อยู่นอกกลุ่มโอเปกทำการเพิ่มกำลังการผลิต
IEA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของประเทศที่อยู่นอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ และ 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งจะมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมันโลก
ทั้งนี้ หากการผลิตน้ำมันของประเทศที่อยู่นอกกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นตามที่ IEA คาดการณ์ ก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันไม่สามารถฟื้นตัวขึ้น อันเนื่องจากภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้ว่าโอเปก และรัสเซียพยายามจำกัดการผลิตก็ตาม