สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการดีดตัวทางเทคนิค หลังจากราคาทรุดตัวลงมากกว่า 2% เมื่อวานนี้ ขณะที่ราคายังคงถูกกดดันจากภาวะน้ำมันล้นตลาด
ณ เวลา 21.57 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.72% สู่ระดับ 43.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ดิ่งลงสู่ระดับ 42.05 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2016
หากนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันได้ทรุดตัวลง 20% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของทุกปีนับตั้งแต่ปี 1997
นักลงทุนไม่มั่นใจต่อประสิทธิภาพในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก
ทั้งนี้ การที่สหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรียพากันผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ได้เป็นปัจจัยหักล้างความพยายามของกลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงของเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการบริโภคน้ำมันมากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มขึ้นมากกว่า 50,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 885,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่การส่งออกน้ำมันของไนจีเรียจะเพิ่มขึ้น 62,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 22 ติดต่อกัน