สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐอาจได้รับผลกระทบชั่วคราวจากพายุโซนร้อนที่ก่อตัวในอ่าวเม็กซิโก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 43.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ โดยปัจจัยล่าสุดมาจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐอาจได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนที่ก่อตัวในอ่าวเม็กซิโก
ศูนย์พายุเฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) คาดการณ์ว่า พายุโซนร้อน "ดอร่า" ที่ก่อตัวขึ้นนอกชายฝั่งเม็กซิโกในมหาสมุทรแปซิฟิก จะทวีความรุนแรงกลายเป็นเฮอร์ริเคน และจะก่อให้เกิดฝนฟ้าคะนองอย่างหนักในพื้นที่ชายฝั่งแถบตะวันตกเฉียงใต้ของอ่าวเม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ด้านการผลิตน้ำมันในสหรัฐต่อไป โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด เนื่องจากการที่สหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรียได้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นนั้น เป็นปัจจัยที่ขัดขวางความพยายามของกลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต
รายงานระบุว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มขึ้นมากกว่า 50,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 885,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่การส่งออกน้ำมันของไนจีเรียจะเพิ่มขึ้น 62,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.
ทางด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ระดับ 758 แท่นในสัปดาห์นี้ และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 23 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย