สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า ลิเบียและไนจีเรีย จะให้ความร่วมมือกับกลุ่มโอเปก ในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 45.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 47.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนหลังจาก EIA คาดการณ์ว่า การขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐจะลดลง 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2561 ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายอิสซาม อัลมาร์ซูค รัฐมนตรีน้ำมันของคูเวต เปิดเผยว่า ลิเบียและไนจีเรียได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม ชาติสมาชิกโอเปกและประเทศนอกโอเปก ที่ประเทศรัสเซีย ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวโน้มการผลิตน้ำมันของทั้งสองประเทศ หลังจากที่สองชาติแอฟริกาซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของทางกลุ่มก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ นายอัลมาร์ซูคกล่าวว่า หากลิเบียและไนจีเรียสามารถรักษาเสถียรภาพของผลผลิตน้ำมันที่ระดับปัจจุบันได้ ทางกลุ่มโอเปกก็อาจขอร้องให้ทั้งสองประเทศจำกัดการผลิตโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากเดิมที่คาดว่าอาจจะมีการขอร้องให้ลิเบียและไนจีเรียควบคุมการผลิตในการประชุมอย่างเป็นทางการของโอเปกในเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ โดย EIA จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค.