สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันนี้ หลังจากที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลสหรัฐปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในปีหน้า ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาด
ณ เวลา 21.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2.24% สู่ระดับ 46.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
API ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ร่วงลง 8.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ สู่ระดับ 9.9 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันมีทิศทางปรับตัวลง
อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำมันที่ระดับ 9.9 ล้านบาร์เรล/วัน ก็ยังคงเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ ระบุว่า โอเปกได้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. จากการที่ลิเบีย และไนจีเรียเพิ่มการผลิตน้ำมัน ขณะที่ซาอุดิอาระเบียก็ได้ผลิตน้ำมันมากกว่าที่ตกลงไว้ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกพุ่งขึ้น 393,500 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.6 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการเพิ่มการผลิตน้ำมันของโอเปกเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แม้โอเปกทำข้อตกลงขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตในเดือนพ.ค.
การผลิตน้ำมันของลิเบีย และไนจีเรียเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับการยกเว้นจากการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตของโอเปก
นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย, อิรัก และแองโกลา ก็ได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ซาอุดิอาระเบียเพิ่มการผลิตน้ำมัน 190,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 10.07 ล้านบาร์เรล/วัน โดยสูงกว่าที่ได้ตกลงกันในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
รายงานโอเปกยังคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะชะลอตัวในปีหน้า โดยการบริโภคน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.26 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 97.6 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2018
โอเปกยังคาดว่าการผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน โดยได้แรงหนุนจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ, บราซิล, แคนาดา และรัสเซีย