สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ จากแรงขายทำกำไร หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในเดือนนี้เมื่อเทียบตั้งแต่ต้นปี โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะจัดการประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อหาทางร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐขู่ที่จะคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อตอบโต้รัฐบาลเวเนซุเอลาภายใต้การนำของนายนิโคลัส มาดูโร ที่เดินหน้าจัดการเลือกตั้งสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญ
ณ เวลา 22.01 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.87% สู่ระดับ 49.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดีดตัวเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ โอเปกและผู้ผลิตน้ำมันจากนอกกลุ่มโอเปกจะประชุมในวันที่ 7-8 ส.ค.ที่อาบูดาบีเพื่อยกระดับความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่เริ่มชะลอตัวลง โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมัน พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียง 10 แท่นในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2016