สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของลิเบีย ซึ่งได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ซาอุดิอาระเบียจะลดการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 49.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันจากบ่อชาราราของลิเบีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 270,000 บาร์เรล/วัน ได้กลับสู่ภาวะปกติ หลังจากที่เผชิญภาวะหยุดชะงักก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ลิเบีย และไนจีเรียได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ข่าวการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของลิเบียได้ส่งผลบดบังปัจจัยบวกจากรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดิ อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย จะลดการส่งออกน้ำมันแก่ลูกค้าทั่วโลกในเดือนหน้าอย่างน้อย 520,000 บาร์เรล/วัน
การปรับลดการส่งออกน้ำมันดังกล่าวเป็นไปตามข้อผูกพันของซาอุดิอาระเบียในการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศโอเปก ซึ่งซาอุดิอาระเบียมีพันธกรณีที่จะต้องลดการผลิต 486,000 บาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียจะลดการส่งออกน้ำมันแก่ลูกค้าส่วนใหญ่ในเอเชียราว 10% ในเดือนหน้า
สำหรับการประชุมของคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวานนี้ ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยโอเปกระบุในแถลงการณ์ว่า "การหารือได้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และมีประโยชน์ โดย UAE อิรัก คาซัคสถาน และมาเลเซียต่างก็แสดงความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อกลไกการตรวจสอบการปรับลดกำลังการผลิต และได้แสดงความเต็มใจที่จะร่วมมือกับทางคณะกรรมการในช่วงหลายเดือนข้างหน้าเพื่อให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตอย่างสมบูรณ์"
อย่างไรก็ดี โอเปกไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางในการเพิ่มความร่วมมือในการลดกำลังการผลิต