สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 48.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 52.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียง 3 แท่น สู่ระดับ 768 แท่นในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะมีการขยายตัวมากกว่าคาดในปีนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้สหรัฐ และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีการผลิตน้ำมันมากขึ้น
ทั้งนี้ IEA ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้ สู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล/วันที่คาดการณ์ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกในปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ดี IEA ระบุว่า ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกลดลงสู่ระดับ 75% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
IEA ยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก นำโดยสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า