สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ แม้ว่าสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม แต่สต็อกน้ำมันเบนซินยังคงทรงตัว และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น สวนทางคาดการณ์ลดลง
ณ เวลา 22.25 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.55% สู่ระดับ 47.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นการปรับตัวลงสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 8.95 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.1 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินทรงตัว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 702,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 572,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยว่า การนำเข้าน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้น 194,000 บาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 113,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 5.585 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค.
EIA คาดว่า การผลิตน้ำมันในบริเวณเพอร์เมียน บาซิน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในรัฐเท็กซัส จะเป็นแหล่งที่มีการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานมากที่สุด โดยคาดว่าการผลิตน้ำมันในแหล่งดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 64,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 768 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก นำโดยสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาด ยังคงเป็นปัจจัยสกัดช่วงขาขึ้นของราคา
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 12% นับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว สู่ระดับ 9.42 ล้านบาร์เรล/วัน