สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่อุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐเตรียมรับมือพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ซึ่งจะพัดถล่มแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกวันนี้
ณ เวลา 17.52 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.63% สู่ระดับ 47.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 10% นับตั้งแต่วันพุธ สู่ระดับ 1.74 ดอลลาร์/แกลลอน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดตัวลง ขณะที่อพยพพนักงาน ก่อนที่พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์จะพัดถล่ม
ทั้งนี้ พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์เตรียมพัดถล่มชายฝั่งสหรัฐในรัฐเท็กซัส และหลุยเซียนา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของสหรัฐ ในวันนี้ โดยเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์นับเป็นพายุเฮอร์ริเคนในสหรัฐที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 12 ปี
ขณะนี้เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์จัดเป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 2 ด้วยความเร็วลม 105 ไมล์ ขณะที่เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากเมืองคอร์ปุส คริสตีของรัฐเท็กซัสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 220 ไมล์
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐคาดว่า พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์จะเพิ่มกำลังกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 3 ในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้เกิดลมกรรโชกแรง และฝนตกหนัก โดยจะกระทบต่อประสิทธิภาพในการกลั่นน้ำมันของสหรัฐราว 1 ใน 3 ในภูมิภาคดังกล่าว ส่งผลให้เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์เป็นพายุขนาดใหญ่ลูกแรกที่พัดกระหน่ำแผ่นดินใหญ่สหรัฐ นับตั้งแต่ที่พายุเฮอร์ริเคนวิลมาพัดถล่มฟลอริดาในปี 2005
ทางการรัฐหลุยเซียนา และเท็กซัสได้ประกาศเป็นรัฐที่ประสบภัยพิบัติ โดยคาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝน 35 นิ้ว และมีลมกรรโชกแรง 125 ไมล์/ชม. ขณะที่คลื่นในทะเลจะสูงถึง 3.7 เมตร
ทางด้านบริษัทน้ำมันหลายแห่ง เช่น รอยัล ดัชท์ เชลล์, อนาดาร์โค ปิโตรเลียม และเอ็กซอน โมบิล ได้พากันอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
รัฐบาลสหรัฐคาดว่าการผลิตน้ำมันดิบราว 9.6% และการผลิตก๊าซธรรมชาติราว 14.6% จะถูกปิดลง จากอิทธิพลของเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์
นอกจากนี้ การที่คณะกรรมการตรวจสอบการผลิตน้ำมันที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกโอเปก ระบุวานนี้ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอาจมีมติขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตออกไปเกินกว่าช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ก็ได้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาดในวันนี้