สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์
ณ เวลา 18.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ปรับตัวขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.41% สู่ระดับ 46.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
เมื่อวานนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังซึมซับข้อมูลเศรษฐิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์เช่นกัน
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" ที่ยังคงสร้างความเสียหายในรัฐเท็กซัสและลุยเซียนาของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมพลังงานที่ต้องระงับการกลั่นน้ำมันดิบในสองมลรัฐดังกล่าว คิดเป็นปริมาณ 3.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือเกือบ 1 ใน 5 ของปริมาณการกลั่นน้ำมันทั้งประเทศ
รายงานระบุว่า อิทธิพลของพายุฮาร์วีย์ส่งผลให้สหรัฐต้องปิดท่อส่งน้ำมันในระบบท่อส่ง "เอ็กซ์พลอเรอร์ ไปป์ไลน์" จากรัฐเท็กซัสไปยังชิคาโกจำนวน 2 เส้น ตั้งแต่เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของสหรัฐได้ปิดการทำงานชั่วคราว ทำให้อุปทานน้ำมันเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน ที่ส่งผ่านระบบท่อส่งต่างๆในสหรัฐนั้น มีปริมาณลดน้อยลง
รัฐที่ตั้งอยู่ริมอ่าวเม็กซิโก ซึ่งประกอบด้วยรัฐเท็กซัส ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี แอละแบมา และฟลอริดานั้น มีปริมาณการกลั่นน้ำมันคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ โดยที่รัฐเท็กซัสมีการกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 5.6 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัฐลุยเซียนามีปริมาณการผลิตที่ 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน