สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาพายุเฮอร์ริเคน "เออร์มา" ซึ่งมีความรุนแรงในระดับ 5 และกำลังเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลคาริบเบียน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 49.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 54.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 5.4 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ซึ่งมีความรุนแรงในระดับ 5 และกำลังเคลื่อนตัวในทะเลคาริบเบียน โดยคาดว่าพายุลูกนี้อาจส่งผลกระทบต่อโรงกลั่น และทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมัน
รายงานระบุว่า รัฐฟลอริดาได้เริ่มอพยพประชาชนในหลายพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาที่คาดว่าจะพัดถล่มรัฐฟลอริดาในวันเสาร์นี้
นายริค สก็อต ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา แถลงข่าวเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและเตรียมรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา พร้อมกับแสดงความกังวลว่า "สิ่งที่น่ากังวลที่สุดตอนนี้คือ คลื่นพายุซัดฝั่งและลมกรรโชกรุนแรง เพราะพายุเออร์มามีขนาดใหญ่กว่า เคลื่อนตัวเร็วกว่า และมีอำนาจทำลายล้างรุนแรงกว่าเฮอร์ริเคนแอนดรูว์"