สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของสหรัฐได้เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง หลังจากที่ต้องปิดดำเนินการเนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบีย, เวเนซุเอลา และคาซัคสถาน ได้หารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 48.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 53.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐได้เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง ขณะที่ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาได้อ่อนตัวลง โดยมีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 1 ขณะที่เคลื่อนตัวในรัฐฟลอริดา ทั้งนี้ NHC คาดว่า พายุเออร์มาจะอ่อนแรงลงกลายเป็นพายุโซนร้อน และจะอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุดีเปรสชั่นในช่วงบ่ายของวันนี้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบีย, เวเนซุเอลา และคาซัคสถาน ได้หารือกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต ให้เกินกว่าไตรมาสแรกในปีหน้า
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ได้บรรลุข้อตกลงในการประชุมกันเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า แต่ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่มากขึ้นของสหรัฐ รวมทั้งลิเบียและไนจีเรีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศสมาชิกโอเปกที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนอย่างใกล้ชิด หลังจากโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐจะลดลงราว 700,000 บาร์เรล/วันในเดือนนี้ โดยได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนที่พัดกระหน่ำสหรัฐ พร้อมกับคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลงราว 300,000 บาร์เรล/วันในเดือนต.ค.
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา และฮาร์วีย์จะทำให้บริษัทปิโตรเคมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งพายุเคลื่อนตัวผ่านลดความต้องการใช้น้ำมันลง
นักลงทุนรอดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย