ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลดลง $1.50 จากแรงขายทำกำไร,วิตกอุปทาน

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday October 7, 2017 07:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นใกล้แตะ 51 ดอลลาร์เมื่อวันก่อน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ราคาร่วงลงไปถึงเกือบ 5%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 55.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 2.1% ตลอดทั้งสัปดาห์

ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับตัวลดลงในวันศุกร์ หลังจากที่ดีดตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีหน้า

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซีย อาจขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า แทนที่จะสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ รัสเซียได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับถ้อยแถลงดังกล่าวของปธน.ปูติน โดยระบุว่าผู้นำรัสเซียไม่ได้เสนอที่จะขยายการปรับลดปริมาณการผลิต เพียงแต่ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้

ทั้งนี้ กลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ได้ทำข้อตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันล้นตลาด

ด้านข้อมูลเกี่ยวกับตลาดน้ำมันที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้น เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 748 แท่นในสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับระดับ 428 แท่นในช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาพายุโซนร้อน "เนท" ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนที่พายุดังกล่าวจะทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอร์ริเคน ขณะเคลื่อนตัวในบริเวณดังกล่าวในวันอาทิตย์นี้

บริษัทบีพี และเชฟรอน พากันปิดการผลิตในแท่นขุดเจาะน้ำมัน ขณะที่รอยัล ดัชท์ เชลล์ และอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ได้ระงับการดำเนินงานบางส่วน

ด้านเอ็กซอน โมบิล, สแตท ออยล์ และผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายราย ก็ได้ลดจำนวนบุคลากรในแท่นขุดเจาะน้ำมันเช่นกัน

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ไม่คาดว่า พายุเนทจะช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมากนัก แม้โรงกลั่นน้ำมันได้ปิดตัวลงชั่วคราว แต่พายุดังกล่าวอาจส่งผลให้ราคาเบนซินดีดตัวขึ้น

สำหรับความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมันสัปดาห์หน้านั้น ตลาดจับตาการเปิดเผยรายงานประจำเดือนจากโอเปก สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA)

นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดน้ำมันยังจับตาผลพวงเกี่ยวการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นอิสระของชาวเคิร์ดในอิรัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายน้ำมันดิบประมาณ 500,000 บาร์เรล/วัน

ขณะที่นักลงทุนยังรอดูด้วยว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับอิหร่าน หลังสื่อสหรัฐรายงานว่า ปธน.ทรัมป์จะไม่ลงนามรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อตกลงดังกล่าวล้มเหลวในท้ายที่สุด

รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์เตรียมวางกลยุทธ์ใหม่ที่มีความครอบคลุมต่ออิหร่านมากขึ้น ซึ่งการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ถือเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ อิหร่านเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปก และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ