สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรในวันนี้ หลังราคาดีดตัวขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ณ เวลา 22.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.90% สู่ระดับ 51.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง, การคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าไตรมาสแรกของปีหน้า รวมทั้งจากปัจจัยการผลิตน้ำมันที่ลดลงของสหรัฐ
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของสหรัฐดิ่งลง 11% สู่ระดับ 8.4 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2557 เนื่องจากมีการปิดโรงกลั่นในอ่าวเม็กซิโกขณะที่เกิดพายุโซนร้อนเนท
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 743 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลง 5.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 456.5 ล้านบาร์เรล
นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการของกลุ่มโอเปก กล่าวว่า ตลาดน้ำมันกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลในอัตราที่รวดเร็วขึ้น และเขายังมองไม่เห็นจุดสูงสุดสำหรับอุปสงค์น้ำมันในอนาคตอันใกล้
นายบาร์คินโดกล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าราคาและความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกแข็งแกร่งขึ้น
"เราคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะทะลุ 100 ล้านบาร์เรล/วันภายในปี 2020" นายบาร์คินโดกล่าว
ก่อนหน้านี้ โอเปกคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 96.8 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้
นายบาร์คินโดเน้นย้ำถึงความสำคัญในการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจับมือกับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก
เขากล่าวว่า โอเปกกำลังพิจารณาข้อเสนอของรัสเซียที่จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า