สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังมีการเปิดเผยข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังแกว่งตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 56.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ปรับตัวขึ้น 2.3% ในรอบสัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 63.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ปรับตัวขึ้น 2%
โดยทั้ง WTI และเบรนท์ ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 9 แท่น สู่ระดับ 738 แท่นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ย.
การเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสัปดาห์นี้ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. นอกจากนี้ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสัปดาห์นี้ มีจำนวนสูงกว่าระดับ 452 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน รวมทั้งการที่กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลาซิส อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมกุฎราชกุมารอัลวาลีด บิน ทาลาล และเจ้าชายคนอื่นๆ รวมทั้งรัฐมนตรี มหาเศรษฐี และอดีตเจ้าหน้าที่อีกหลายคน
ทั้งนี้ ทางการซาอุดิอาระเบียออกประกาศเตือนประชาชนมิให้เดินทางเข้าสู่เลบานอน พร้อมกับสั่งชาวซาอุดิอาระเบียที่อยู่ในเลบานอนให้รีบเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียกล่าวหาเลบานอนว่าได้ทำการประกาศสงครามต่อซาอุดิอาระเบีย หลังการรุกรานของกลุ่มฮิสบอลลาห์ในเลบานอน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน
เลบานอนได้ถูกดึงเข้าสู่ปมปัญหาความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน นับตั้งแต่ที่นายซาอัด อัล-ฮารีรี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ได้กล่าวหาอิหร่าน และกลุ่มฮิสบอลลาห์ในแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งของเขา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งจะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียต่างก็สนับสนุนให้มีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า
ความคาดหวังของนักลงทุนที่ว่าโอเปกจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนนี้ และข่าวกษัตริย์ซาอุฯกวาดล้างการทุจริตในประเทศครั้งใหญ่ ได้หนุนให้สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2558 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้